ป้องกันแล้ว:เด็กพิเศษประเภทที่ 1 สมองดีมีปัญหาการเรียน

บทความนี้มีรหัสผ่านป้องกันอยู่ การจะดูบทความโปรดใส่รหัสผ่านของคุณด้านล่าง

ปัญหาการเรียนในเด็ก ในโลกยุคดิจิตอล

ปัญหาการเรียนในเด็ก ในโลกยุคดิจิตอล
โลกยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย มีปัญหาเกิดใหม่ตามมาเช่นกัน ข้อมูลข่าวสารและความรู้เพิ่มขึ้นมาก จนน่าสงสัยว่าเด็กยุคใหม่จะเรียนรู้กันอย่างไร ชาว Gen Z คงต้องปรับตัวกันให้ถูกวิธีนะครับ
เวลาเด็กมีปัญหาการเรียน เดิมจะมีสาเหตุหลักๆไม่กี่อย่าง เช่น สติปัญญาบกพร่อง (ปัญญาอ่อน) โรคสมาธิสั้น โรคบกพร่องด้านการเรียนรู้ โรคทางร่างกาย(ตาสั้น ตาเอียง หูตึง เลือดจาง) เครียด ซึมเศร้า ขาดโอกาสการเรียน แต่ในยุคใหม่นี้ อาจจะมีโรคอุบัติใหม่ คือ โรคติดเกม ติดไอที ทำให้เบื่อเรียน ไม่มีสมาธิ ขาดแรงจูงใจในการเรียน
โรคติดเกมนี้เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานมานี้เอง หลังจากที่เกมออนไลน์มีการแพร่ระบาดอย่างมาก เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงได้จากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็พัฒนาไปรวดเร็วเช่นกัน จนทุกวันนี้เด็กสามารถเล่นเกมที่เมื่อก่อนเล่นได้จากคอมพิวเตอร์เท่านั้น และโทรศัพท์มือถือก็มีราคาต่ำลงจนทุกคนมีติดตัวได้ ทำให้เด็กเสพเกมได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงได้ตลอดเวลา
พ่อแม่สมัยใหม่อาจไม่ค่อยระวังการใช้สื่ออิเลคโทรนิกที่ทันสมัยนี้ บางคนให้ลูกเล็กๆเล่นไอแพดตั้งแต่เล็ก เพราะเด็กสนุก เพลิดเพลิน มีความสุข นั่งนิ่งไม่กวนพ่อแม่เลย เล่นได้เป็นชั่วโมงๆ บางคนคิดว่าช่วยทำให้สมาธิดี หารู้ไม่ว่า การที่เด็กเสพเกมหรือกิจกรรมเหล่านี้โดยไม่ควบคุมตั้งแต่อายุน้อย จะเกิดปัญหาตามมามาก ที่พบบ่อยคือ เด็กไม่สามารถหยุดเล่นได้ในเวลาที่ต้องหยุด บางคนจะเอะอะโวยวาย ก้าวร้าว ถึงขั้นทำร้ายพ่อแม่ที่มาห้ามอย่างรุนแรง ผิดกับนิสัยเดิม ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเมื่อติดเกมแล้ว การควบคุมอารมณ์จะเสียไป ไม่สามารถคุมได้เหมือนเดิม ข่าวที่เห็นกันบ่อยๆ คือ ลูกเอามีดฟันแม่ที่มาหยุดการเล่นเกม พฤติกรรมนี้เป็นอาการของเด็กติดเกมครับ อาการของเด็กติดเกม ดูได้จากการจัดการเวลาของเด็กเอง เมื่อใดก็ตามที่เด็กเล่นเกมมากจนไม่เรียน ไม่กิน ไม่นอน ไม่รับผิดชอบหน้าที่ดังเดิม ต้องคอยบอกให้ทำการบ้าน ให้นอนตามเวลา ให้ไปโรงเรียน หน้าที่ทุกอย่างเสียไปหมด และมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดการเรียนก็ตกลง หรือบางคนไม่ไปเรียนเลย อยู่กับบ้านเล่นเกมทั้งวัน นอกจากนี้ยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เวลาถูกห้ามหรือให้หยุดเล่นเกม จะมีอาการมาก เริ่มจาก ต่อรอง ขอเล่นเพิ่ม แอบเล่น จนถึงขึ้นก้าวร้าวทำร้ายคนที่มาห้าม พอถึงขั้นนี้มักยากที่จะแก้ไขแล้วครับ
การป้องกันเด็กติดเกมนั้นสำคัญกว่าการรักษามาก เพราะถ้าปล่อยจนเป็นโรคติดเกมแล้วจะรักษายากมากครับ ควรป้องกันตั้งแต่เด็กอายุน้อยนะครับ เริ่มต้นคือ อย่าให้เด็กได้เล่นเกมคอมพิวเตอร์เร็วเกินไป ก่อนวัยประถมนั้น ไม่ควรให้เด็กเล่นไอแพด เกมในมือถือเลยครับ แต่ควรจะเล่นเกมที่เล่นกับพ่อแม่ให้เหมาะตามวัย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ การสื่อสารกับมนุษย์ด้วยกันมากกว่า เช่น เล่นสมมติบทบาท ศิลปะ ประดิษฐ์ บอร์ดเกม มีเกมมากมายที่เล่นได้ไม่ติด ไม่เกิดปัญหาระยะยาว พ่อแม่ควรเลือกให้ดีครับ เวลาถามพ่อแม่เด็กติดเกมพบว่า พ่อแม่เหล่านั้นไม่ค่อยมีกิจกรรมกับลูกครับ เล่นกับลูกไม่เป็น ไม่เคยฝึกให้ลูกมีกิจกรรมสนุกสร้างสรรค์เลย เวลารักษาจะยากเพราะจะให้ไปทำอะไรในครอบครัวเพื่อทดแทนเกมนั้น ทำไม่ได้เลย
ถ้าเริ่มให้เล่นเกมมือถือหรือเกมออนไลน์ ควรมีการกำหนดกติกากันก่อนครับ กำหนดว่าเกมใดเล่นได้ เกมใดห้ามเล่น พ่อแม่ต้องรู้ว่าลูกกำลังเล่นเกมใด กำหนดเวลาเล่นและเวลาเลิกเล่นอย่างชัดเจน แล้วต้องคอยกำกับให้อยู่ในกติกาสม่ำเสมอ ถ้าละเมิดกติกาควรให้หยุดเล่นสักพักหนึ่ง แล้วเริ่มต้นใหม่ แบบนี้จะไม่เกิดการติดเกมครับ

ไฮไลท์
“เมื่อติดเกมแล้ว การควบคุมอารมณ์จะเสียไป ไม่สามารถควบคุมได้เหมือนเดิม ข่าวที่เห็นกันบ่อยๆ คือ ลูกเอามีดฟันแม่ที่มาหยุดการเล่นเกม พฤติกรรมนี้เป็นอาการของเด็กติดเกมครับ”